การทำ SEO ของคนส่วนใหญ่ ณ ปัจจุบันนี้ มักจะมุ่งเน้นไปยัง search engine อย่าง Google เพียงอย่างเดียว เพราะ Google คือ Search Engine ซึ่งผู้คนจากทั่วโลกใช้มากที่สุด ณ ขณะนี้ แต่โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน เพราะฉะนั้นเราควรทำ SEO กระจายไปยัง Search Engine อื่นๆด้วย โดยเฉพาะ Bing ที่ปัจจุบันนี้มันไม่ได้เป็นแค่ Search Engine ให้แก่ Yahoo กับ Facebook เท่านั้น แต่จากสำรวจในปี 2011 พบว่ามีสถิติการใช้งานเพิ่มมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนอย่างเห็นได้ชัดมากถึง 51% ในระยะเวลาเพียงแค่ 1 ปี อีกทั้งข้อมูลของปี 2018 เปิดเผยว่า Bing และ Yahoo ครอบครอง 30% ของส่วนแบ่งการตลาด และมีแนวโน้มการเจริญเติบโตสูงมากขึ้น เพราะฉะนั้นมันถึงเวลาหันมาทำ SEO ใน BING กันบ้างแล้วล่ะค่ะ
วิธีทำ SEO ใน Bing
ก่อนอื่นคุณต้องทำความเข้าใจก่อนว่าการทำ SEO ใน Bing มีความแตกต่างกับการทำ SEO ใน Google ดังนี้
• แบรนด์ชั้นนำหลายๆเจ้ามีแนวโน้มในการจัดอันดับ Bing ให้เป็นตัวเลือกในการทำการตลาดเป็นอันดับต้นๆ เช่นเดียวกับที่ทำบน Google
• สัญญาณทางสังคมมีความสัมพันธ์ใกล้เคียงในการจัดอันดับสูงขึ้น
• หมายเลขลิงก์เชื่อมโยงความสัมพันธ์กับการจัดอันดับสูงขึ้นเช่นกัน
• เนื้อหาอันเกี่ยวข้องรวมทั้งคุณภาพของเนื้อหานั้นๆ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการจัดอันดับการค้นหา
• ด้านปัจจัยทางเทคนิคก็ยังคงมีบทบาทสำคัญ
ส่วนเรื่องของปัจจัยเทคนิคในหน้าและโครงสร้างเบื้องหลังของเว็บไซต์ ล้วนมีบทบาทสำคัญในการจัดอันดับที่ดีของ Bing เช่นเดียวกับที่ใช้ใน Google แม้ว่าจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย โดยทุกสิ่งทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับความเร็วของเว็บไซต์อันมาจาก URL ซึ่งลิ้งค์ไปยังเว็บไซต์ที่ต้องการ โดย Bing มีความสัมพันธ์เป็นอย่างมากในหน้าแรกซึ่งอยู่นอกเหนือจากหน้าผลการค้นหา ซึ่งตรงนี้ Google มีการวิวัฒนาการให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น จึงได้เปรียบกว่า
แต่อย่างไรก็ตามขณะที่ Googlebot รวบรวมข้อมูลได้เพียง 100 กิโลไบต์ จากหน้าแรกของหน้าเว็บแต่ Bing ยังคงแคชไว้เพียงประมาณ 100,000 หน้าเว็บแรก จากข้อมูลตรงนี้มันแสดงให้เรารู้ว่า สิ่งสำคัญที่สุดของ Bing คือการวาง องค์ประกอบชิ้นสำคัญที่สุดของเนื้อหาภายใน 100k นั่นเอง
นอกจากนี้ Bing และ Google ยังคงจัดการ Meta Refreshes ด้วยความแตกต่างกัน โดยเป็นปัจจัยที่ผู้ทำ SEO ควรคำนึงถึงตลอดเวลา ซึ่ง Google จะทำการ Meta Refreshes ในวินาทีที่ 2 ขณะเดียวกัน Bing จะไม่ทำ Meta Refresh แต่จะทำให้โปรแกรมรวบรวมข้อมูลแทน แต่ตรงนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต โดยเนื้อหาหรือ Content ภายในเว็บไซต์มีคุณภาพสูง ส่งผลให้ความสัมพันธ์ในการจัดอันดับของ Bing ดีมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับ Google แต่อย่างไรก็ตาม Bing จะชื่นชอบกับรูปภาพ , VDO , เสียงและอื่นๆมากกว่า แต่ Google หันมาแสดงเนื้อหาแบบเป็นข้อความมากขึ้น